เมนู

เถรวรรคที่ 4



1. อานันทสูตร



ว่าด้วยปัจจัยให้มีและไม่ให้มีตัณหามานะทิฏฐิ



[193] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้ :-
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน
อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี. ณ ที่นั้นแล ท่าน
พระอานนทเถระเรียกภิกษุทั้งหลายมาแล้วกล่าวว่า ดูก่อนอาวุโส
ทั้งหลาย. ภิกษุเหล่านั้นรับคำท่านพระอานนท์แล้ว. ท่านพระอานนท์
จึงได้กล่าวว่า ดูก่อนอาวุโสทั้งหลาย ท่านพระปุณณมันตานีบุตรมี
อุปการะมากแก่พวกเราเหล่าภิกษุใหม่ ท่านกล่าวสอนพวกเราด้วย
โอวาทอย่างนี้ว่า ดูก่อนท่านอานนท์ เพราะถือมั่น จึงมีตัณหา มานะ
ทิฏฐิว่า เป็นเรา เพราะไม่ถือมั่น จึงไม่มีตัณหา มานะ ทิฏฐิว่า เป็นเรา
เพราะถือมั่นอะไร จึงมีตัณหา มานะ ทิฏฐิว่า เป็นเรา เพราะไม่ถือมั่น
อะไร จึงไม่มีตัณหา มานะ ทิฏฐิว่า เป็นเรา เพราะถือมั่นรูป เวทนา
สัญญา สังขาร วิญญาณ จึงมีตัณหา มานะ ทิฏฐิว่า เป็นเรา เพราะ
ไม่ถือมั่นรูป เวทน่า สัญญา สังขาร วิญญาณ จึงไม่มีตัณหา มานะ
ทิฏฐิว่า เป็นเรา ดูก่อนท่านอานนท์ เปรียบเหมือนสตรีหรือบุรุษรุ่น
หนุ่มรุ่นสาว มีนิสัยชอบแต่งตัว ส่องดูเงาหน้าของตนที่กระจก หรือ
ที่ภาชนะน้ำอันใสบริสุทธิ์ผุดผ่อง เพราะยึดถือจึงเห็น เพราะไม่ยึดถือ
จึงไม่เห็น ฉันใด ดูก่อนท่านอานนท์ เพราะถือมั่นรูป เวทนา สัญญา
สังขาร วิญญาณ จึงมีตัณหา มานะ ทิฏฐิว่า เป็นเรา เพราะไม่ถือมั่น
รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ จึงไม่มีตัณหา มานะ ทิฏฐิว่า
เป็นเรา ฉันนั้นเหมือนกันแล ดูก่อนท่านอานนท์ ท่านจะสำคัญความ